ว่านขันหมากเศรษฐี

ว่านขันหมากหรือขันหมากเศรษฐี เป็นว่านที่ปู่ย่าตายายสมัยโบราณนำมาใช้รักษาโรคชนิดต่างๆเพราะในเมล็ดของว่านขันหมากมีเอนไซด์ที่ช่วยให้ระบบต่างๆของร่างกายมนุษย์ทำงานได้ตามปกติ อีกทั้งยังช่วยยับยั้งและป้องกันรักษาเซลล์เนื้อร้ายต่างๆ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ รักษาอาการภูมิแพ้ หอบหืด โรคกระเพาะ โรคลำไส้ ทางเดินอาหาร ปวดท้องบิด ตะคริว มือเท้าชา ปวดตามแข้งขา เส้นเอ็นตึง รักษาไข้และอาการไอได้ รักษามะเร็งระยะต่างๆ เนื้องอก ซิสส์ เบาหวาน ความดัน ยับยั้งความเสื่อมชราของร่างกาย เป็นยาอายุวัฒนะ ป้องกันความเสื่อมทางด้านเพศ เป็นสมุนไพรที่มีงานวิจัยรับรองอย่างมากมาย ส่วนต้นเชื่อกันว่านำมาปลูกประดับบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคล โชคลาภ ค้าขายร่ำรวย ป้องกันภูติผีได้ ถ้าใครนำมาปลูกแล้วขันหมากออกดอกเชื่อกันว่าเจ้าของบ้านจะมีแต่โชคดี เงินไหลนอง ทองไหลมา เพราะต้นนึงจะออกดอกออกผลใช้เวลาร่วม 3 ปีทีเดียว ถ้าทุกท่านต้องการข้อมูลมากกว่านี้สอบถามได้นะครับ

วิธีการทานว่านขันหมากเศรษฐีและวิธีการทำดองน้ำผึ้งแบบฉบับหมอพืชอานนท์

                                                วิธีทานว่านขันหมากเศรษฐีแคปซูล
ให้ทานก่อนนอน ครั้งละ 1-2 แคปซูลในช่วง 7 วันแรก และ สามารถเพิ่มเป็นครั้งละ 2 - 4 แคปซูล ก่อนอาหารเช้าและก่อนนอนได้ หลังจากทาน 1 สัปดาห์ผ่านไป
วิธีต้มต้นและใบว่านขันหมาก




ให้นำต้นและใบที่ได้ไป ใช้ใบ 7 ใบ+ต้นว่าน 9 ท่อน (หรือต้นว่าน 1 ต้น ) + น้ำ 2 ลิตร ต้มเคี่ยวให้เดือดนานประมาณ 10-15 นาที แล้วนำมาดื่ม จะดื่มแบบร้อนๆหรืออุ่นๆแล้วแต่ถนัดหรือเก็บไว้ในขวดน้ำพกพาไปดื่มที่ทำงานก็ได้เช่นกัน เมื่อรินน้ำจากหม้อต้มหมดแล้วสามารถเติมน้ำได้อีก 2 รอบต้มเคี่ยวให้เดือดซัก 10 นาทีพอเมื่อหมด 3 น้ำแล้วจึงค่อยทิ้งเศษยาในหม้อ ใน 1 วันควรดื่มให้ได้มากๆแทนน้ำได้ยิ่งดีนะครับ (ถ้าเคสมะเร็งไม่ควรแช่ตู้เย็น)
หมายเหตุ : ถ้าป่วยเป็นโรคร้ายแรงทุกชนิด อาธิ เช่น มะเร็ง หัวใจ เอดส์ สะเก็ดเงินไต ไวรัสตับ ฯลฯ ควรเก็บดอกไม้พร้อมนำธูปเทียนทำขันธ์ 5 ไปขอขมากรรมกับคุณพ่อคุณแม่ด้วยและทำบุญถวายสังฆทานแด่พระสงฆ์ 4 รูปขึ้นไป และอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรขออโหสิกรรมกับเขาด้วย
วิธีทานลูกสุกว่านขันหมากเศรษฐี
-  ไม่ควรเคี้ยวลูกว่านขันหมากเป็นอันขาดเพราะจะมีอาการคันมาก
-  ควรใช้มีดหั่นหรือสับบางๆแทนการเคี้ยวหย่อนใส่ปากกลืนแล้วดื่มน้ำตามมากๆ
-  สามารถทานได้ครั้งละ 2-5 ลูก ก่อนนอนและก่อนอาหารเช้า ( กรณีรักษาโรคทานได้มากกว่านี้ )
                                      วิธีทำว่านขันหมากเศรษฐีดองน้ำผึ้งสูตรลับหมอพืชอานนท์
ส่วนผสม
- ผลสุกลูกว่านขันหมากเศรษฐี 1 ส่วน ( 1-2 ขีด )                         -   น้ำผึ้งแท้ 4 ส่วน ( 4 ขีด )
- ขวดโหล หรือ กระปุก จะเป็นแก้วหรือ พลาสติกก็ได้
วิธีทำ
แบ่งการทำออกเป็น 3 แบบแล้วแต่ความถนัดของทุกท่านแต่มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันดังนี้
1. ดองน้ำผึ้งทั้งลูก ข้อดีได้คงสภาพลูกว่านสุกแบบสดๆไว้ ข้อเสียเวลาเคี้ยวลูกว่านยังมีความคันเหลืออยู่แต่ไม่มากนักและตัวยาออกมาผสมกับลูกว่านช้าประมาณ 1-3 เดือนจึงทานได้
2. ดองแบบผ่าลูกครึ่งลูกหรือหั่นเป็นท่อนๆ ข้อดีตัวยาออกมาผสมกับน้ำผึ้งเร็วขึ้น และทานได้เร็วขึ้นประมาณ 15 วันทานได้เลย ลูกว่านที่ผ่าจะไม่คัน ข้อเสียยังต้องเคี้ยวลูกว่านก่อนกลืน
3. ดองแบบนำลูกว่านปั่นให้แตกก่อนดองกับน้ำผึ้ง ข้อดีตัวยาออกมาผสมกับน้ำผึ้งเร็วกว่าการดองทุกแบบและทานได้เร็วขึ้น 7 วันเริ่มทานได้ เป็นการดองน้ำผึ้งที่ดีและให้ผลไวที่สุดครับ
ส่วนวิธีการทำตามนี้เลยนะครับ
-  ล้างลูกว่านขันหมากให้สะอาด ผึ่งให้หมาดๆ ( ผึ่งพัดลมก็ได้ )ไม่ต้องผึ่งหรือตากแดดจนแห้งนะครับเพื่อป้องกันตัวยาระเหยไปกับแสงแดด
-  เลือกว่าจะดองน้ำผึ้งแบบไหนแล้วทำการเตรียมลูกว่านตามวิธีการดังกล่าว
-  นำลูกว่านที่เตรียมไว้ลงในกระปุกหรือขวดโหล เติมน้ำผึ้งที่เตรียมไว้เทลงไปให้ทั่ว ลูกว่าน 1 ส่วน/น้ำผึ้ง 4 ส่วน เสร็จแล้วปิดฝาให้สนิท
-  ช่วงแรกๆหมั่นเปิดฝากระปุก ทุกๆวัน แต่หลังจาก 1 สัปดาห์ผ่านไปค่อย 7 วันครั้งเปิดพอให้ลมออกแล้วปิดฝาไว้เหมือนเดิม ( ไม่แนะนำให้เปิดฝาไว้ตลอดเพราะเชื้อโรค ละอองฝุ่น มด แมลง จะตกลงไป )
-  เมื่อครบเวลาการดองน้ำผึ้งสามารถนำมาทานได้ ครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ ทานทั้งเนื้อว่านและน้ำผึ้ง ตามแต่ถนัดครับ สามารถทานได้ทั้งช่วงเช้าและเย็นนะครับ ( การดองน้ำผึ้งแบบนี้ยิ่งนานวันจะมีรสชาดเปรี้ยวขึ้นไปเรื่อยๆ..ถ้าเราชอบรสชาดแบบไหนให้เก็บเข้าตู้เย็น เช่น ดองน้ำผึ้งผ่านไป 1 เดือน รสชาดออกเปรี้ยวหวานกลมกล่อมกำลังดี ทานง่าย สามารถเก็บเข้าตู้เย็นหยุดรสชาดไว้แบบนั้นได้เลยครับ )


สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้นะครับ : หมอพืชอานนท์ 090-9569093 , 089-6889946
http://keaomanarnon.blogspot.com/2012/08/blog-post_7.html...Line ID = 0896889946

การค้นพบใหม่ แปลกที่สุดในโลกแต่เป็นความจริง ว่านขันหมากเศรษฐีออกดอกเป็นช่อเหมือนมะลิ ว่านขันหมากสุกแล้ว

      ว่านขันหมากเศรษฐีเป็นสมุนไพรในป่าลึกอันทรงคุณค่า มีสรรพคุณทางการรักษาและป้องกันมากมาย แถวบ้านหมอพืชอานนท์เรียกว่านชนิดนี้ว่า " บักขันหมาก "หรือ"หมากยา" เป็นสมุนไพรโบราณที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์แนะนำต่อๆกันมาตั้งแต่ออกดอกจนถึงระยะลูกสุกกินเวลายาวนานถึง 3 ปีทีเดียว การออกดอกจะออกเป็นช่อทีละช่อ ทีละดอก ...แต่วันนี้ผมจะพามาดูความแปลกใหม่ที่ใครๆก็ต้องงง..ถามคนเฒ่าคนแก่ที่รู้จักว่านชนิดนี้เองก็ยังตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า " ไม่เคยเจอ..แปลก..! "


http://keaomanarnon.blogspot.com/2012/08/blog-post_7.html..Line ID = 089688946
ว่านขันหมากต้นนี้เป็นว่านขันหมากป่าที่พระอธิการจำปี อธิปญฺโญ เจ้าอาวาสวัดโนนหินสูง อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ท่านนำมาปลูกไว้ที่วัดแห่งนี้ร่วม 4 ปีแล้ว ท่านเป็นพระสุปฏิปันโนที่ชอบช่วยเหลือชาวบ้านผู้ตกทุกข์ได้ยากทุกผู้ทุกนาม..หมอพืชอานนท์เป็นทั้งศิษย์น้องและโยมอุปัฏฐาก เพราะเคยประพฤติปฏิบัติร่วมกันมาเป็นเวลา 2 ปี... เห็นไหมละครับว่าแปลกแต่จริง...แต่ผมไม่ได้บอกใบ้หวยนะครับ..
บางครั้งสิ่งที่เราคิดว่าไม่มี..อาจจะมีอยู่ก็ได้เพียงแต่เรายังค้นไม่พบเท่านั้น...บางครั้งสิ่งที่เราคิดว่าเป็นไปไม่ได้..อาจจะเป็นไปได้เช่นกันนะครับ
ช่วงนี้ไกล้สุกแล้วนะครับสำหรับลูกสุกของว่านขันหมากเศรษฐี...ปีนี้หมอพืชอานนท์จะเริ่มเก็บลงจากเขาประมาณปลายเดือนกันยายน และมีไว้บริการให้กับผู้ที่สนใจจนถึงปลายเดือนมกราคมนะครับ..ท่านใดที่สนใจโทรมาสั่งจองกันได้นะครับ...สั่งจองกันปากเปล่านะครับไม่ต้องมัดจำเงินกันก็ได้
ปกติเมล็ดสุกของว่านขันหมาก 1 กิโลกรัม เมื่อนับแล้วจะได้ประมาณ 1,000 ลูก ผมแนะนำให้ซื้อเป็นกิโลนะครับจะได้ประหยัดกัน...บางท่านซื้อต่อจากไหนไม่รู้เม็ดละ 10-20 บาท นั่นเท่ากับว่าท่านได้ซื้อลูกว่านกิโลละ 10,000-20,000 บาททีเดียว น่าเห็นใจทีเดียว
หมอพืชอานนท์แบ่งให้กับทุกท่านที่สนใจกิโลกรัมละ 2,000 บาท
- สั่ง 3 กิโล ลดเหลือ 5,000 บาทนะครับ ส่วนลด 1,000 บาท
- สั่ง 6 กิโล ลดเหลือ 10,000 บาท ส่วนลด 2,000 บาท แถมฟรีอีก 1 กิโลกรัม เท่ากับได้ลด 4,000 บาท
- สั่ง 12 กิโล ลดเหลือ 20,000 บาท ส่วนลด 4,000 บาท แถมฟรีอีก 3 กิโลกรัม เท่ากับได้ลด 10,000 บาท
สอบถามได้นะครับที่ หมอพืชอานนท์ 090-9569093 , 089-6889946
http://keaomanarnon.blogspot.com/2012/08/blog-post_7.html

เดินป่าหาว่านขันหมากลำบากมากที่สุดในชีวิต พบความอัศจรรย์มากมายและสุขใจมากที่สุดเช่นกัน

    สวัสดีครับทุกท่าน...วันนี้ผมอดรนทนไม่ไหวอยากแบ่งปันความรู้สึกดีๆที่ได้ประสบพบเจอจากการเข้าป่าเก็บต้นว่านขันหมากเศรษฐีครั้งล่าสุด " เมื่อวานนี้เองครับ " มาบอกผ่านทางหน้าจอแห่งนี้
- ก่อนอื่นผมต้องขอแสดงความยินดีกับคุณพี่ทางทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ก่อนนะครับมีข่าวดีแจ้งมาให้ผมทราบว่าหลังจากทานว่านขันหมากที่ผมจัดส่งให้ไปแล้ว มะเร็งตับขั้นโคม่าตรวจพบเชื้อที่ 8,000 กว่า ช่วงอาทิตย์แรกๆหลังจากแอบทานว่านขันหมากก็พบว่าอาการดีขึ้นมากเนื้องอกลดลงไป 5 ซม. และผ่านมาหนึ่งเดือนพอดีตอนนี้ค่าของมะเร็งลดลงเหลือที่ 1,000 อาทิตย์หน้าคุณหมออนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วพร้อมกับอาการงงๆปนแปลกใจมันเป็นไปได้ยังไง
- อีกท่านนะครับที่เพชรบุรี ทานอาหารไม่ได้ต้องให้ทางสายยาง เป็นมะเร็งในลำไส้ลามถึงกระเพาะอาหาร ต้องให้ยาระงับปวดทุกๆ 2 ชม. หลังจากทานว่านขันหมากไปหนึ่งอาทิตย์ ลดการให้ยาแก้ปวดลงเหลือแค่วันละ 2 ครั้งแทน เคสนี้คุณพี่สวิงที่ดูแลลำบากมากครับเพราะต้องป้อนน้ำต้มยาทางสายยาง ยังไงผมก็ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ..ขอให้มีปาฏิหารย์หายไวๆ
- อีกเคสพี่ที่อยู่ทางขอนแก่นเป็นมะเร็งรังไข่มาหลายปี ทุกข์ใจมากและปวดบริเวณบั้นเอวและหลังมา 8 ปี ทานว่านขันหมากไปแล้วได้เพียงอาทิตย์เดียว อาการปวดที่รักษามาทุกอย่าง กินยามาทุกขนานหายไปเป็นปลิดทิ้ง ผมเองต้องขอแสดงความยินดีกับคุณพี่ภัทรชนกด้วยนะครับ
     นี่หละครับคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงอยากนำวิชาความรู้ที่มีมาช่วยเหลือผู้คนทุกคนที่เจอความทุกข์กาย ทุกข์ใจ กับภัยของโรคร้ายชนิดต่างๆ...ขอเพียงแค่ได้ยิน ได้ฟัง ได้เห็น รอยยิ้มอันสุขใจของคนที่ผมให้คำปรึกษาและส่งสมุนไพรว่านขันหมากเศรษฐีไปให้..มันทำให้ผมมีกำลังใจในการเข้าป่าหาว่านขันหมาก ถึงมันจะลำบาก ทุกข์ยาก หนักหนาสาหัสขนาดไหน มันก็ยังสุขใจเพราะความหวัง ความตั้งใจที่อยากให้คนที่มอบความไว้วางใจให้กับผมหายจากโรคร้ายเร็วๆ...ช่วงนี้มีเคสเกี่ยวกับมะเร็งในที่ต่างๆเยอะมากครับต้นว่านที่จะนำมาต้มทานควบคู่กับแคปซูล...ต้องใช้ในปริมาณมากพอสมควรทำให้ผมต้องเข้าป่าเดือนนี้หลายรอบกว่าที่เคย
     และครั้งล่าสุดครับ...เมื่อวานนี้เองที่ผมเดินทางเข้าป่าอีกครั้ง คณะเดินทางของผมก็มี คุณแม่ คุณน้า ภรรยาของผม และลูกชายวัย 14 ขวบ รวม 5 ชีวิตด้วยกัน คนที่น่าหนักใจที่สุดก็คือภรรยาของผมเพราะเธอไม่เคยเดินป่าไกลเกินครึ่งกิโลซักที ทุกๆครั้งผมมักจะขึ้นเขาคนเดียวบ้าง กับพรานคู่ใจบ้าง ครั้งนี้เธอขอเดินทางไปด้วย ห้ามก็ไม่ฟังครับเลยปล่อยเลยตามเลย...ระยะทางเดินขึ้นเขาขาไปครับประมาณ 7 กิโลเมตร เป้าหมายคือ " ด่านขี้ทูต " เป็นสถานที่ผมเคยเดินบุกเที่ยวดงชมไพรสมัย ม.ปลายกันเมื่อ 15 ปีก่อน ระยะทางเดินขาไปนี้ถ้าใครเคยเดินขึ้นภูกระดึงจังหวัดเลย นั่นแหละครับไม่ต่างกันเลยทีเดียว แค่ระยะทางขึ้นเขาลูกแรกต้องพากันหอบแฮกๆๆ..ไปตามๆกันเลยทีเดียว ( เหมือนซำแฮกของภูกระดึงเลย)  และที่เลวร้ายที่สุดครับ 15 ปีที่ผ่านมาผมไม่ได้ขึ้นเขาเขตนี้อีกเลย ทางขึ้นที่เคยมีร่องคนเดินสมัยก่อนเดินไปซักพักไม่มีเหมือนเช่นแต่ก่อน..ผมต้องทบทวนความหลังใหม่อยู่นานทีเดียวจึงตัดสินใจตัดทางขึ้นเขาในทางที่คิดว่าน่าจะใช่ ( เดามั่วหรือเปล่าไม่แน่ใจ ) ประมาณ 5 กิโลเมตรครับลุถึงทางด่านแห่งแรกเป็นป่าหินหรือลานหินเนื้อที่นับร้อยไร่ ผมใจชื้นขึ้นมาทีเดียวเพราะสถานที่แห่งนี้ชาวบ้านเรียกติดปากกันว่า " ลานหินถ้ำคีม " เป็นลานหินที่งดงามและมีเสน่ห์มากครับ ยิ่งหน้านี้เป็นหน้าฝนด้วยแล้วมีดอกไม้ป่า กล้วยไม้ นานาชนิด ขึ้นกันดาษดื่นตลอดทั้งแนวหินสวยงามจนบรรยายไม่ถูก หลังจากดั้นด้นกันขึ้นมาจนร่างกายโชกไปด้วยเหงื่อกันทุกคน..หายเหนื่อยกันปลิดทิ้งเลยครับ..เมื่อเราได้เจอสวรรค์บนดินกันแบบนี้
http://keaomanarnon.blogspot.com/2012/08/blog-post_7.html
            ผมพาทุกคนลงไปดูถ้ำคีมกันเป็นถ้ำที่มีความเชื่อกันว่าระยะทางยาวกว่า 5 กิโลเมตร ( จริงหรือเท็จผมไม่รู้เหมือนกันเคยมุดกันกับเพื่อนๆเมื่อ 15 ปีก่อน รูเล็กๆพอคนคลานเข้าไปได้แค่นั้น อากาศน้อยมาก ผมคลานเข้าไปได้ประมาณ 30 เมตรแค่นั้นและได้เจอฝาบาตรพระตกอยู่ข้างในจึงพากันคลานถอยหลังออกมาเพราะแทบไม่มีอากาศหายใจกัน ) ออกจากถ้ำคีมกันเดินขึ้นไปทางเหนือประมาณครึ่งกิโลเมตร..ณ.ที่นี้เราได้พบกับฤาษีที่ท่านได้มาบำเพ็ญตนที่เขตภูเขาแห่งนี้ มันเป็นอะไรที่ผมแทบจะบรรยายไม่ถูก มีแต่ความปลาบปลื้มปีติ สุขใจเป็นล้นพ้น เหมือนความฝันก็ไม่ปาน
     หลังจากกราบท่านและได้สนทนาแลกเปลี่ยนกันทั้งทางธรรม และด้านการช่วยเหลือคนแล้วจึงขอตัวท่านออกเดินทางต่อเพราะบ่ายโมงแล้ว ถ้าผ่านมาทางนี้ ขากลับจึงจะแวะกราบลาท่านอีกครั้งนึง เดินกันไปอีกประมาณกิโลครึ่งริมข้างทางได้เจอเห็ดโคนไฟดอกสีแดงอมชมพูกันเก็บได้ประมาณ 1 กิโลกรัมจึงพากันเดินทางต่อไปจนบรรลุถึงเป้าหมายคือ " ด่านขี้ทูต " ดังตั้งใจแต่แรกก่อนขึ้นเขามา ณ.ที่นี้หมอพืชอานนท์ได้สละรองเท้าอีก 1 คู่แล้วครับ ด่านขี้ทูตแห่งนี้เป็นลานหินตะปุ่ม ตะป่ำ มีหินรูปต่างๆมากมายครับ ทั้งรูปเต่า ยานอวกาศ รถมอเตอร์ไซด์ เรือ เสาเฉลียง และหินแปลกๆรูปต่างๆนับร้อยชนิด บนเนื้อที่นับร้อยไร่ทีเดียวติดกับชายแดนประเทศลาว..และที่ด่านแห่งนี้มีดอกไม้สวยๆเยอะมากยังกับว่ามีใครมาจัดและตกแต่งสวนไว้ตามรอยแตกของหินและที่สำคัญ ณ.ที่แห่งนี้มีสระน้ำเล็กที่มีน้ำเต็มตลอดทั้งปี มองลงไปเห็นทรายใต้น้ำระยิบระยับเหมือนน้ำจะตื้นๆแต่เมื่อโดดลงไปแล้วลึกท่วมหัวยื่นสุดแขนก็ยังไม่พ้นน้ำลึกประมาณ 2 เมตร เย็นสบายมาก ผมตั้งชื่อสระน้ำแห่งนี่เมื่อ 15 ปีก่อนว่า "สระอโนดาต "เพราะอยู่ไกล้สวนดอกไม้สวยๆและน้ำใสเย็นตลอดปี
     หลังจากวักน้ำเช็ดหน้าเช็ดคอกันแล้ว ทานอาหารมื้อเที่ยงกับเมนูอร่อยๆกัน " ห่อหมกเห็ดโคนไฟ " ผมรับรองเมนูภัตตาคารไหนๆก็สู้ไม่ได้ ทานข้าวเสร็จเดินหาต้นว่านกันประมาณ 2 ชั่วโมง เป็นช่วงวัดดวงกันเลยทีเดียวว่าจะมีต้นว่านให้เห็นกันไหม ตอนนี้แหละครับทุกท่าน..ทรมาณสุดๆเลยรองเท้าไม่มีเดินเท้าเปล่าหาต้นว่าน หนาม มด ปลวก ไม่ต้องพูดถึงครับ เลือดไหลซิบๆตลอดเวลา ที่สำคัญฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตาอีกแบบไม่ยอมหยุดยังกะฟ้ารั่ว เขาลื่นมากๆครับถลอกปอกเปิกไปตามๆกัน แต่สุดท้ายพวกเราก็ได้เจอต้นว่านขึ้นกันประปรายครับ...เพราะไฟป่าไหม้ไปเมื่อหน้าร้อนที่ผ่านมาต้นว่านตายไปเป็นส่วนมาก แต่ณ.ที่นี้เราได้เจอต้นว่านขันหมากตัวผู้กันหลายสิบต้นทีเดียว หลังจากเก็บต้นว่านกันได้พอสมควรจึงเริ่มหาทางกลับ..ฝนเจ้ากรรมครับผ่านมา 2 ชั่วโมงยังไม่ยอมหยุดอีก และนี่ก็คืออีกหนึ่งบทพิสูจน์ของความลำบาก ความอดทน อดกลั้น อีกครั้ง ผมหาบต้นว่าน 2 กระสอบ น้ำหนักข้างละประมาณ 30 กิโลกรัมทั้งต้นทั้งดิน เดินกลับทางเดิมกัน แรกๆก็พอทนครับเดินไปประมาณ 500 เมตรหยุดทีนึง วางหาบลงจากบ่ากว่าจะถึงอาศรมของปู่ฤาษีต้องวางหาบประมาณ 7 ครั้ง..จึงพากันกราบลาท่านและถวายต้นว่านขันหมากให้กับท่านหลายสิบต้นจึงเริ่มออกเดินทางต่อกันทันที เพราะไกล้จะ 5 โมงเย็นแล้ว...สุดยอดความลำบากคูณสามครับเดินลงเขาที่เป็นลานหินระยะทางร่วม 2 กิโลเมตรฝนตกไม่หยุด หินลื่นๆ รองเท้าไม่มี หนักสุดๆตั้งแต่เกิดมา ต้องระวังตัวแจไม่ให้ลื่นล้ม...ตัวผมเองไม่ล้มแต่แฟนผมซิครับล้มลุกคลุกคลานหลายรอบทีเดียว น่าสงสารเธอจริงๆเธอไม่เคยเดินทางไกลถึงกิโลซักทีแต่วันนี้ สภาพอากาศแบบนี้ ขึ้นเขาลงห้วยแบบนี้ เหนื่อยและหนักแบบนี้ เธอกัดฟันสู้ไม่ถอย ผมต้องขอบคุณคู่ชีวิตของผมคนนี้จริงๆเพราะถ้าผมมาคนเดียวผมคงไม่มีแรงหาบต้นว่านเหล่านี้แล้ว แต่เมื่อเห็นเธอลำบาก กัดฟันสู้โดยไม่ปริปากขนาดนี้ ผมคือผู้นำครอบครัว คือความหวังของอีกหลายชีวิต ผมจะยอมแพ้เชียวหรือทำให้เต็มที่ทำให้ดีที่สุด..ทุกคนทนได้ผมก็ต้องทนได้

      กว่าจะลงมาถึงตีนเขาต้องวางหาบหยุดพักกันร่วม 30 ครั้ง ผมเองเคยหาบน้ำ..หนักๆก็ไม่เกินกิโลแต่วันนี้หาบหนักๆ ขึ้นเขาลงห้วยแค่ขากลับนับ 7 กิโลเมตรทีเดียวครั้งแรกในชีวิตเลยก็ว่าได้ ที่ต้องใช้ความอดทน อดกลั้น ความพยายามถึงขีดสุด
http://keaomanarnon.blogspot.com/2012/08/blog-post_7.html

      อีกประมาณกิโลกว่าๆจะถึงรถขอถ่ายรูปแบบสู้ๆให้กำลังใจกันหน่อย..เพราะเริ่มมืดแล้วทุ่มๆกว่าๆยังเหลืออีกหลายกิโล ยังไม่เห็นชายป่ากันเลย

     เมื่อสู้เต็มที่แล้วมันต้องพบกับชัยชนะ ถึงไม่ชนะใครก็ช่างแต่เราชนะใจตัวเองให้ได้ก็พอ..ขอขอบคุณคุณแม่ผู้ไม่ยอมแพ้ คุณภรรยาผู้เป็นยาใจ คุณน้าถึงขาไม่ดีแต่ก็สู้ไม่ถอย ลูกชายผู้เดินตามรอยเท้าพ่อไม่ยอมท้อถอย..ขอบคุณทุกแรงใจที่ทำให้ผมได้สร้างความดีไว้ให้กับสังคม...นี่แหละครับที่เหนื่อยๆมาก็หายเป็นปลิดทิ้ง..ขอบคุณครับ http://keaomanarnon.blogspot.com/2012/08/blog-post_7.html

วงจรชีวิตของว่านขันหมากเศรษฐี 3 ปีลูกสุกครั้งนึง

         ว่านขันหมากหรือขันหมากเศรษฐี เป็นว่านที่ปู่ย่าตายายสมัยโบราณนำมาใช้ป้องกันและรักษาโรคชนิดต่างๆเพราะในเมล็ดของว่านขันหมากมีเอนไซด์ที่ช่วยให้ระบบต่างๆของร่างกายมนุษย์ทำงานได้ตามปกติ อีกทั้งยังช่วยยับยั้งและป้องกันรักษาเซลล์เนื้อร้ายต่างๆ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ รักษาอาการภูมิแพ้ หอบหืด โรคกระเพาะ โรคลำไส้ ทางเดินอาหาร ปวดท้องบิด ตะคริว มือเท้าชา ปวดตามแข้งขา เส้นเอ็นตึง รักษาไข้และอาการไอได้ รักษามะเร็งระยะต่างๆ เนื้องอก ซิสส์ เบาหวาน ความดัน ยับยั้งความเสื่อมชราของร่างกาย เป็นยาอายุวัฒนะ ป้องกันความเสื่อมทางด้านเพศ เป็นสมุนไพรที่มีงานวิจัยรับรองอย่างมากมาย ทุกส่วนของว่านชนิดนี้ตั้งแต่ ราก ลำต้น ใบ ดอก ผล มีตัวยาต่างๆมากมาย  ส่วนใครที่นำต้นมาปลูกเชื่อกันว่าเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง โชคลาภ ค้าขายร่ำรวย มีมหานิยม เป็นที่เกรงขามต่อผู้ได้พบเห็น ป้องกันภูติผีได้ ถ้าใครนำมาปลูกแล้วขันหมากออกดอกเชื่อกันว่าเจ้าของบ้านจะมีแต่โชคดี เงินไหลนอง ทองไหลมา เพราะต้นนึงจะออกดอกออกผลใช้เวลาร่วม 3 ปีทีเดียว ถ้าทุกท่านต้องการข้อมูลมากกว่านี้สอบถามได้นะครับที่ หมอพืชอานนท์ 089-6889946,090-9569093
     วันนี้ผมจะพาทุกท่านมาดูข้อมูลวงจรชีวิตของว่านขันหมากเศรษฐี สุดยอดสมุนไพรจากป่าลึกกันนะครับ ว่าเขามีวิถีความเป็นอยู่แต่ละช่วงแต่ละอายุยังไง...ก่อนอื่นผมเองต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่าไม่ได้อุปโหลกตัวเองเป็นผู้รู้หรือผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรง แต่ผมคลุกคลีและศึกษาว่านขันหมากเศรษฐีมาร่วม 7 ปี เดินป่า ขึ้นเขา มาไม่ต่ำกว่าร้อยครั้ง หลงป่าเป็นวันเป็นคืนนับสิบครั้ง ใช้ว่านชนิดนี้ช่วยเหลือบรรเทาผู้คนที่รักสุขภาพ รักษาโรคร้ายต่างๆที่รุมเร้ากายและใจ ตลอดจนป้องกันตัวเองจากสภาพแวดล้อมและอาหารการกินที่เปลี่ยนแปลงไปจากแต่ก่อน มาร่วม 7 ปี จึงอยากแบ่งปันประสบการณ์ดังกล่าวให้กับท่านผู้ที่สนใจใคร่รู้ในความเป็นมาของว่านชนิดนี้ครับ
http://keaomanarnon.blogspot.com/2012/08/blog-post_7.html...Line ID = 0896889946
วงจรชีวิตว่านขันหมากเศรษฐี

1. แก่จัด บางครั้งก็แห้งเหี่ยวร่วงลงสู่ดิน หลังจากรอดจากกระรอก กระแต นก หนู ไก่ป่า  

2. หลังจากเหลือรอดจากปลวก มด แมลง หนู ตามพื้นดิน ประมาณ 3-6 เดือน ก็จะงอกต้นลูก ต้นใหม่ขึ้นมาให้เห็นครับ


3. ประมาณ 1 ปี ถ้าไม่มีไฟป่ามาเผาทำลายก็จะเริ่มเลี้ยงต้น เลี้ยงใบ ดูที่ลำต้นครับยังเขียว ลำต้นยังอ่อนอยู่ ถ้าลำต้นเริ่มแก่จะออกน้ำตาลไล่ขึ้นไปจากโคนไปปลาย



4. อายุประมาณ 3-5 ปี ลำต้นจะเริ่มแก่สีออกน้ำตาล จึงจะเริ่มติดดอก ออกลูกได้
5. เมื่อต้นสมบูรณ์เต็มที่ ประมาณ 3-5 ปี จะเริ่มออกดอก การออกดอก1ต้นอาจมีหลายๆดอกออกตามกันก็ได้ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของลำต้น เกิดดอกได้ตลอดปี..แต่จะออกมากช่วงเดือนมค.ถึงมีค.
6. ประมาณ 15-30 วันดอกจะร่วง เผยให้เห็นพวงลูกว่านขันหมากลูกเล็กๆเป็นตุ่มๆ เล็กกว่าหัวไม้ขีดอีก
        7. ประมาณ 6-8 เดือน ลูกจะเริ่มโตขึ้น ขนาดประมาณหัวไม้ขีดไฟ
 
8. ลูกว่านขันหมากอายุประมาณ 2-2.5 ปี ประมาณ ครึ่งปีก็คงมีลูกแดงๆสุกให้เห็นเป็นพวงเลยครับ

9. เมื่ออายุครบประมาณ 3 ปี ตั้งแต่ออกดอกมาเขาก็จะสุกอย่างที่เห็นนี่แหละครับ


                       http://keaomanarnon.blogspot.com/2012/08/blog-post_7.html

    อย่างที่ทุกท่านรู้กันนะครับว่าว่านชนิดนี้ตั้งแต่ออกดอกจนถึงลูกสุกกินเวลายาวนานมากถึง 3 ปี แล้วช่วงลูกสุกแดงก็มีกระรอก กระแต ไก่ป่า นก หนู แย่งกันกิน นอกจากนั้นก็ร่วงหล่นสู่ดิน งอกขึ้นมาอีก แต่กว่าที่เขาจะโตจนสามารถออกลูกออกผลได้ก็ไม่ต่ำกว่า 3 ปีเช่นกัน สรุปแล้วก็คือหลังจากเมล็ดงอก จนเป็นลำต้น เลี้ยงตัวเองจนเติบใหญ่ 3 ปี จึงจะออกดอกได้ เมื่อออกดอกแล้วกว่าจะเป็นลูกสุกก็ร่วม 3 ปี นั่นก็คืออายุขั้นต่ำที่เขาให้ลูกสุกแก่เราท่านก็ร่วม 6 ปีทีเดียว นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมเมื่อนำเขามาทำเป็นยาสมุนไพรทานจึงเห็นผลชัดเจนครับ และภัยอีกอย่างของต้นว่านชนิดนี้ก็คือ ไฟป่าครับ ทั้งจากน้ำมือของมนุษย์ และเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ถ้าป่าไหนไฟไหม้นั่นหมายถึงว่านชนิดนี้ต้องเริ่มวงจรชีวิตใหม่ตั้งแต่เริ่มงอก เลี้ยงลำต้น ออกดอก เป็นลูก ร่วม 6 ปีทีเดียว บางแห่ง บางที่ เจอไฟป่า ครั้ง สองครั้ง สูญพันธุ์ไปเลยก็มีครับ น่าเสียดายจริงๆ

จากใจของหมอพืชอานนท์ ...NEW ว่านขันหมาก ต้นว่าน ขายว่าน ถูกที่สุดในเมืองไทย

                                              ความรู้สึกจากใจของหมอพืชอานนท์
        เดือนเมษายน เป็นเดือนที่มีแต่ความร้อนอบอ้าว เป็นเดือนที่สร้างความหงุดหงิดรำคาญใจให้กับบุคคลส่วนใหญ่เป็นอันมาก ยิ่งคิดก็ยิ่งร้อน ร้อนทั้งกายและใจ สุดท้ายก็จะเป็นบ่อเกิดให้โรคภัยเบียดเบียน เพราะโรคภัยไข้เจ็บส่วนใหญ่กว่าครึ่ง เกิดจากความคิดเช่นเดียวกัน หลายท่านที่มีปัญหาสุขภาพก็อยากให้หายไวไว ตัวผมเองก็ร้อนใจไม่น้อยไปกว่าทุกท่านเช่นกัน อยากให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรงและหายเจ็บ หายป่วยกันเร็วๆ ก่อนอื่นผมเองก็ต้องขอขอบพระคุณทุกๆท่านที่ให้ความไว้วางใจกับผมหมอพืชอานนท์ในการเป็นที่ปรึกษาปัญหาสุขภาพให้กับทุกๆท่านนะครับ
                         ขอบคุณครับ..สำหรับทุกๆสิ่ง.....ความจริงใจความห่วงใยที่ทุกท่าน..มีให้
                     หมอพืชอานนท์รับรู้..และรับไว้ด้วยใจ...รับรู้ถึงความห่วงใย...ที่ทุกท่านมี
                         ขอบคุณอีกครั้ง..สำหรับความห่วงหา...ความอาทรที่ทุกท่านมีให้..ในวันนี้
                     ขอบคุณนะครับ..สำหรับความหวังดี....ขอบคุณอีกที..ขอบคุณมาก..จากใจจริง
       ช่วงหลังสงกรานต์ผมมีโอกาสขึ้นกรุงเทพฯไปคุยงานกับท่าน ดร.สมภพ เกี่ยวกับว่านขันหมากเศรษฐี ว่าจะทำยังไงให้สามารถช่วยเหลือคนให้ได้มากกว่านี้ ต้องขอขอบพระคุณท่าน ดร.สมภพมากๆนะครับที่ให้โอกาสหมอพืชบ้านนอกคนนี้..และช่วงที่ขึ้นกรุงเทพฯคราวนี้ผมนำต้นว่านขันหมากติดรถขึ้นไปเกือบ 100 ต้น เพื่อนำไปฝากหลายๆท่าน..บางท่านก็โชคดี..แต่บางท่านก็น่าเสียดายแทน..บางท่านผมผ่านไปจนถึงหน้าบ้านโทรหาทั้งวันก็ไม่มีใครรับสาย..เอาไว้โอกาสหน้าละกันนะครับ..ถ้าท่านไหนที่สนใจอยากได้ก็แจ้งผมไว้เนิ่นๆละกันนะครับถ้ามีโอกาสได้ขึ้นไปอีกผมจะนำไปฝาก ( ฟรีนะครับ )                ช่วงหลังมานี้มีหลายท่านโทรมาแจ้งข่าวดีกันหลายร้อยท่าน..
- บางคนแจ้งมาว่ามะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่เป็นอยู่ระยะต้น..ทานว่านขันหมากแล้วตรวจหาเชื้อมะเร็งไม่เจอเลย..ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก
- บางท่านแจ้งมาว่าทานแล้วขาว ผิวนวลเนียนมากกว่ากินกลูต้าไธโอนเสียอีก..อย่างนี้กะมีกับเขาด้วย
- บางท่านแจ้งมาแรกๆนึกว่าหมอเชียร์ขายของ ว่าภูมิแพ้แก้ได้จริงๆแรกๆไม่ค่อยเชื่อแต่ก็ลองทานดู ทานไปเพียงกระปุกเดียว หายใจคล่องขึ้น น้ำมูกลดลง เสลดไม่มี ดีขึ้นจริงๆๆ
- หลายคนโทรมาบอกว่าขับถ่ายสะดวกขึ้น ท้องไม่ผูกเหมือนเดิม อาหารย่อยง่ายไม่แน่นเหมือนก่อน
- หลายท่านอายุ70 กว่าบอกกระซิบมาว่า...เรี่ยวแรงดีขึ้นไม่รู้มันมาจากไหน..เตะปี๊บดังแล้วเด้อ
- บางท่านบอกมา..ขอหวยแม่นดีแท้..สมเขาว่าเป็นว่านมหามงคลจริงๆ..ปลูกแล้วโชคดีสมคำล่ำลือ
- บางท่านเก็บใบมาต้มน้ำดึ่ม...เคยเหนื่อยหอบ เดี๋ยวนี้เดินตัวปลิวเลย
- บางท่านอายุมากแล้วนอนไม่หลับ...ทานว่านแคปซูลแล้วหลับสนิทดีทุกคืนเลย
- บางท่านเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย...ร่างกายซูบผอม...ทานอาหารไม่ได้..ต้มต้นว่านทาน+แคปซูลทุกว่านผ่านไปไม่ถึงครึ่งเดือน เริ่มทานอาหารได้...กลับมามีเรี่ยวมีแรง...ดีวันดีคืน
- บางท่านบอกว่าลุงทานแค่วันละ 1 เม็ดเองเพราะกลัวหมดไว...งบมีน้อย..แต่ทำงานตัวปลิว หลับสบายทุกคืนเลย
   นี่คือตัวอย่างของหลายๆท่าน....ที่ทานว่านขันหมากเศรษฐีครับ
                             http://keaomanarnon.blogspot.com/2012/08/blog-post_7.html
แปลงเพาะชำรอส่งเพื่อช่วยเหลือและแบ่งปันกัน


                                          ต้นนี้ครับสูงกว่า 170 ซม. คาดว่าอายุน่าจะ 20 ปีขึ้น
                                   http://keaomanarnon.blogspot.com/2012/08/blog-post_7.html

ประเภทของว่านขันหมากเศรษฐี

ประเภทของว่านขันหมากเศรษฐี
               ว่านขันหมากเศรษฐีเป็นสมุนไพรป่าที่ทรงคุณค่าและหายากมาก ผลสุกทานกันสดๆได้เลยหรือมักนำมาทำเป็นยาแคปซูลหรือดองน้ำผึ้งไว้ทาน สรรพคุณมีมากมายเป็นที่ประจักษ์สำหรับกลุ่มคนรักสุขภาพหรืออยากดูแลปกป้องร่างกายของตัวเองจากสภาพแวดล้อม การดำรงชีวิต ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ส่วนต้น ใบ ราก ทุกส่วนมีสรรพคุณทางยามากมาย บางคนใช้ใบต้มทานเพื่อป้องกันความดัน บรรเทาอาการอ่อนเพลีย เจ็บแข้งปวดขา ขับถ่ายลำบาก ท้องผูก เป็นต้น บางคนเอาต้นมาต้มทานรักษาโรคมะเร็ง รีดสีดวง ต้านอนุมูลอิสระ บำรุงหัวใจ ล้างพิษในตับ ขับนิ่ว บำรุงสายตา ป้องกันต้อหิน ต้อกระจก เพิ่มสมรรถนะทางเพศ ชะลอแก่ อายุวัฒนะ ฯลฯ ส่วนรากนำมาต้มทานแก้ปวดไมเกรน แก้ผิดสำแดง แต่ที่แน่ๆลูกของว่านขันหมากสรรพคุณยิ่งอเนกอนันต์กว่านั้นเพราะตั้งแต่ระยะออกดอกจนถึงลูกสุกกินระยะยาวนานถึง 3 ปีทีเดียว เพราะฉนั้นสรรพคุณอันมากมายจึงมีมาก ตัวหมอพืชอานนท์เองภูมิแพ้หายขาดก็เพราะว่านขันหมากนี่แหละครับหรือหลายๆท่านที่ทานก็มีอาการดีขึ้นเช่นกัน ทั้งๆที่แต่ก่อนทานยาที่ราคาแพงกว่านี้มากอย่างเช่น ถังเช่าที่ราคากิโลละเป็นแสนๆ เม็ดนึงราคาหลายร้อยบาททานไป 4-5 เดือนยังไม่รู้ผลเลย แต่สำหรับว่านขันหมากเศรษฐีไม่ถึง 1 เดือนนะครับทุกวันนี้เหมือนได้ชีวิตใหม่ในร่างกายเดิม ส่วนยายที่เลี้ยงหมอพืชอานนท์มาตั้งแต่เด็ก ท่านอายุ 85 ปีแล้ว ใครเอายาอะไรมาให้ก็ไม่เอา ( เคยลองซื้อให้ทานมาหลายสิบยี่ห้อแต่ไม่ดีขึ้น ทานข้าวไม่อร่อย อาการต่างๆมีแต่ทรงกับทรุด นอนไม่หลับเลย ยิ่งอายุเยอะยิ่งนอนไม่หลับ ) ช่วงนั้นท่านไอมากเหมือนคนเป็นวัณโรค ไอไม่หยุดไม่หย่อน ตัวขดตัวงอเลย ทานข้าวไม่ได้ เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวเคยหนัก 34 กิโลกรัม ลดลงจนแทบใจหายเหลือแค่ 14 กิโลกรัม ไปตรวจที่คลินิกบ้าง โรงพยาบาลบ้าง เอ็กซเรย์นับสิบครั้ง ก็ไม่พบเชื้อวัณโรค จนลูกหลานเหนื่อยใจ ช่วงนั้นหมอพืชอานนท์เพิ่งขึ้นเขาหาว่านขันหมากเศรษฐีมาใหม่ๆ เลยลองหั่นลูกสุกให้ท่านทานทุกวันเช้ากับก่อนนอนครั้งละ 2 ลูก ผ่านไปประมาณซักหนึ่งอาทิตย์เห็นจะได้ ท่านเริ่มทานข้าวได้บ้างและเริ่มมีกำลังวังชาขึ้น ผ่านไปประมาณหนึ่งเดือนอาการไอที่เป็นหนักๆแบบไม่ได้หลับไม่ได้นอนเริ่มทุเลาลงจนหายไปในที่สุด ทุกวันนี้ท่านทานข้าวได้ครั้งละเต็มจานทุกมื้อเลยครับ บางมื้อมีขอเพิ่มด้วย น้ำหนักตัวทุกวันนี้ 30 กิโลกรัมแล้วครับ ผมเองดีใจและเป็นสุขใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะท่านเลี้ยงผมมาเองกับมือ สอนทุกสิ่งทุกอย่างให้ผม ท่านมักย้ำอยู่เสมอ “ ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว เด้อหลานเอ้ย “ จากวันนั้นจนวันนี้ก็ปีกว่าๆยายของผมยังแข็งแรง ไปไหนมาไหนเอง ชอบถอนหญ้าตามสวนทุกวัน อ่านหนังสือธรรมมะได้เหมือนเมื่อสองปีก่อน นี่ก็คืออีกหนึ่งเหตุผลที่ผมยืนหยัดที่จะนำความรู้ ความปรารถนาดี มอบให้กับคนที่ผมรักและเพื่อนๆในสังคมสืบต่อไป...ขอบคุณมากครับ http://keaomanarnon.blogspot.com/2012/08/blog-post_7.html
         ประเภทของว่านขันหมากเศรษฐี
        แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ชนิดทรงพุ่มและชนิดเป็นต้น
1     . ชนิดทรงพุ่ม
     ว่านขันหมากเศรษฐีชนิดนี้ มีลักษณะเป็นพุ่มแบบต้นกระชาย แตกหน่อเหมือนต้นข่า ตะไคร้ เกิดลูกปีละ 1   ครั้ง เมื่อยอดไหนเป็นลูกแล้วเมื่อลูกสุกร่วงหล่นลงสู่ดิน ยอดหรือขั้วต้นนั้นจะเหี่ยวแห้งและตายในที่สุด   (  เหมือนต้นกล้วย ) เพราะฉนั้นว่านขันหมากชนิดนี้จึงแตกหน่อเป็นจำนวนมากทดแทนต้นเก่าที่ตายไป ยิ่งป่าไหนดินอุดมสมบูรณ์มากเท่าไหร่ ว่านขันหมากชนิดนี้ก็จะมีก้านใบยาว ใบใหญ่ ให้ลูกดกและลูกใหญ่ หน่อมากยิ่งขึ้น...ตัวผมเองเคยเจอบางพุ่มใหญ่ สูงถึง 50 ซม.ก็มี ส่วนตัวยาที่ช่วยรักษาผู้คน...เท่าที่ผ่านมายังด้อยกว่าว่านขันหมากทรงต้นอยู่มากประมาณ 50% เลยทีเดียว แต่นิยมนำมาปลูกประดับไว้ตามบ้าน ตามสำนักงาน จะดูสวยมากและเมื่อออกดอกจะสีขาวสวย มีเสน่ห์ไปอีกแบบ และยังมีความเชื่อที่ว่าคนที่มีว่านเศรษฐีไว้ครอบครอง คนนั้นจะโชคดี เป็นเศรษฐีมีทรัพย์สมบัติ และมีสุขภาพที่ดี

2. ชนิดเป็นต้น เป็นชนิดที่นิยมนำมาทำเป็นยาแคปซูลทานกัน บางคนก็ดองน้ำผึ้ง บางท่านก็ทานกันสดๆ ส่วนสรรพคุณก็มากมายหลายอย่างตามที่ทุกท่านได้ค้นเจอจากหลายๆที่ มีสรรพคุณทางการรักษามากกว่าชนิดทรงพุ่มกว่า 50% การติดลูกยากมาก ตั้งแต่ระยะออกดอกจนถึงลูกสุกยาวนานมากถึง 3 ปี เลยทีเดียวและว่านขันหมากแบบต้นนี้ยังแบ่งออกเป็น ตัวผู้ และ ตัวเมีย อีกด้วย ซึ่งส่วนมากที่เจอกันและนำมาทำเป็นยาจะเป็นตัวเมียซึ่งมีอยู่ในป่าลึกทั่วๆไป
                     http://keaomanarnon.blogspot.com/2012/08/blog-post_7.html 

- แบบตัวเมีย
เป็นว่านขันหมากเศรษฐีที่มีอยู่ทั่วไป ลักษณะใบจะเรียวแหลม ลำต้นสูงเพรียวลำเล็ก ลูกของว่านลักษณะจะกลมเรียวเหมือนวงรีลูกไม่ใหญ่มากเล็กเท่านิ้วก้อยของผู้หญิงทั่วไป เป็นว่านที่หายากมาก ชอบเกิดตามภูเขา ตามหน้าผาสูง ริมน้ำตก ป่าลึกๆ ขยายพันธุ์โดยการแตกหน่อ เพาะเมล็ด ตัดข้อชำก็ได้ ทุกส่วนของต้นจะมีสรรคุณทางยาทั้งหมดเลยนะครับ...แต่ที่มากที่สุดคือ ในเม็ดสุก ช่วงที่มีลูกสุกมากๆคือ ปลายกันยายน ถึง มกราคม อย่าลืมนะครับเป็นลูกครั้งนึง 3 ปี ถึงจะสุก
- แบบตัวผู้
      เป็นว่านขันหมากเศรษฐีที่หายากมากที่สุด ขนาดที่ว่าเดินหาต้นว่านขันหมากตัวเมียเขา 3 ลูกถึงจะเจอซักที่นึง แต่ว่านขันหมากตัวผู้นี้ต่อให้เจอว่านขันหมากตัวเมีย 10 ที่ก็อาจจะไม่เจอว่านขันหมากตัวผู้เลยซักต้นก็เป็นได้ครับ...ไม่ได้เวอร์นะครับ ตัวผมเองเดินป่าเขตภาคอีสานมาเป็น 10 ปี เพิ่งพบเจอเพียงเขาลูกเดียวเท่านั้น ลักษณะใบ จะกลมมน ใบใหญ่ หนา ปลายเรียวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ลำต้นอ้วน ใหญ่ เท่าที่เคยพบขนาดข้อมือผู้หญิงก็มีนะครับ สูงใหญ่มาก เคยเจอสูงสุดถึง 2 เมตรครับ ติดลูกยากมากที่สุดลูกลักษณะกลม ไม่ออกเรียวเหมือนตัวเมีย ตัวยาสรรพคุณมากกว่าว่านขันหมากตัวเมียเป็น 10 เท่าครับ หายากมาก แบบสุดๆเลยครับ เคยมีคนเป็นมะเร็งนำมาต้มทานเห็นผลไวกว่าแบบต้นตัวเมียมาก บำรุงกำลังดีสุดๆ ราคาแพงมากครับ ( เมื่อ 3 ปีก่อน ราคาตกต้นละ 3,000 บาท..แพงมากครับ ) ตอนนี้ผมกำลังเพาะชำไว้..กลัวเขาสูญพันธุ์เตรียมปลูกไว้ในป่า เพราะออร์เดอร์ต้นตัวผู้ตอนนี้เยอะมากต้นละพันสองพันก็มีหลายสิบท่านสั่งมาว่าหาให้ได้นะ...กลัวไม่มีตังค์จ่ายหรือไง...ต้องขอโทษทุกท่านด้วยนะครับมันหายากมากจริงๆ...เรื่องเงินทองมันไม่เท่าไหร่หรอกครับแต่ถ้ามันช่วยบรรเทา รักษา และยื้อชีวิตคนได้..ผมเต็มใจที่จะทำครับต่อให้ลำบาก เสี่ยงอันตรายแค่ไหนผมก็เต็มที่ครับ เพราะ " การอยู่อย่างมีคุณค่า...ดีกว่าอยู่แบบใช้เวลาไร้ค่าไปวันๆ " 





 ลักษณะต้นว่านขันหมากเศรษฐีตัวผู้ ใบใหญ่ ลำต้นอวบหนา ใหญ่มาก มีเมตตาและเสน่ห์ในตัว เป็นมหาอำนาจมีเดช มีพละ เป็นที่น่าเกรงขามต่อผู้พบเห็น กวักทรัพย์ เรียกเงินเรียกทองได้ดีมาก ใครมีไว้ครอบครอง จะเกิดโชค ลาภ วาสนา บารมี เพิ่มขึ้น ยิ่งเพิ่มบุญบารมีให้ตนเองด้วยการ ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ทุกสิ่งยิ่งสัมฤทธิ์ผลเร็ว 
       http://keaomanarnon.blogspot.com/2012/08/blog-post_7.html



ว่านขันหมากสุกสดๆใหม่ๆ การผลิตแคปซูลว่านขันหมากของหมอพืชอานนท์ จำหน่ายว่านขันหมาก

ว่านขันหมากแคปซูลของหมอพืชอานนท์
วีธีการตากแดดลูกว่านขันหมากสุกเพื่อนำมาทำแคปซูล..ก่อนอื่นต้องล้างให้สะอาดที่สุด แล้วนำไปผึ่งแดดให้เปลือกหุ้มผลว่านขันหมาก แห้งเสียก่อน..จึงนำมาผ่าครึ่งทุกลูกเพื่อให้แห้งสนิททั่วทุกเม็ด

 ต้องทำให้แห้งสนิทที่สุด..เพื่อป้องกันความชื้นหรือขึ้นรา..เมื่อแห้งแล้วจึงนำมาป่นแล้วผึ่งแดดอีกทีหนึ่ง เมื่อแห้งสนิทที่สุดแล้ว..จึงนำมาอบและป่นให้ละเอียดที่สุดครั้งสุดท้ายเพื่อนำมาบรรจุแคปซูล...
ระหว่างที่กำลังบรรจุแคปซูลว่านขันหมาก...คนบรรจุต้องทำการแผ่เมตตาก่อนและขณะบรรจุต้องท่องบทพระเจ้า 5 พระองค์ตลอดเวลา ( นะ โม พุท ธา ยะ ) เพื่อให้จิตขณะนั้นเป็นบุญเป็นกุศลมากที่สุด จิตใจคนทำต้องไม่โลภ โกรธ หลง หลังบรรจุแคปซูลเสร็จคนบรรจุต้องแผ่เมตตาอีกครั้งหนึ่ง
นี่คือหลักในการผลิตแคปซูลว่านขันหมากของหมอพืชอานนท์..ถึงใครจะว่าผมงมงายก็ไม่เป็นไรครับ..แต่ผมเชื่อว่า" การให้สิ่งที่สำคุญที่สุดและดีที่สุด..คือการให้ที่มีคุณค่ามากที่สุดเช่นกัน "

ลูกว่านขันหมากที่เก็บมาใหม่ๆสดๆ..ในช่วงปลายฤดูการเก็บเกี่ยวช่วงเดือนมกราคม


ช่วงนี้ผลสุกของว่านขันหมากเศรษฐีกำลังเริ่มจะทะยอยมีแล้วนะครับ..และข่าวดีช่วงลูกว่านสุกฤดูเก็บว่านขันหมากที่อื่นขายกันกิโลละ 3,000-5,000 บาท แต่ที่นี่หมอพืชอานนท์ ขายเพียง 2,000 บาท แต่ถ้าสั่ง 3 กิโลกรัม ลดเหลือ 5,000 บาทนะครับ หรือท่านที่ต้องการแบบแคปซูลผมมีไว้ให้บริการกับทุกท่านอย่างเพียงพอนะครับ http://keaomanarnon.blogspot.com/2012/08/blog-post_7.html


แคปซูลว่านขันหมาก 108 แคปซูล ปกติ 1,200 บาท ลดเหลือเพียง 999 บาทตลอดเดือนนี้ นะครับ ( สั่งซื้อ 5 กระปุกแถมฟรีอีก 2 กระปุก,หรือสั่ง 10 กระปุก แถมอีก 5 กระปุกฟรี  )
(โปรพิเศษสั่ง 3 กระปุกลดเหลือ 2,500 บาทครับ)
- แบบกระปุกเล็ก 50 แคปซูล 500 บาท ก็มีนะครับ
- กระปุกดองน้ำผึ้ง ปกติ 1,599 บาท ลดเหลือเพียง 1,299 บาท ตลอดปี 60 เช่นกันครับ ( สั่งซื้อ 5 กระปุกแถมฟรีอีก 1 กระปุก,หรือสั่ง 10 กระปุก แถมอีก 3 กระปุกฟรี )
- ต้นว่านขันหมากติดลูกต้นละ 200- สั่ง 10 ต้นแถมอีก 3 ต้นนะครับ สั่ง 5 ต้นแถม 1 ต้น ถ้ายังไม่ติดลูกต้นละ 100- ( สั่ง 10 ต้น แถม 3 ต้น ครับ )
- ต้นว่านขันหมากทรงพุ่ม ขยายพันธุ์ด้วยการแตกหน่อ ต้นละ 100 บาท สั่ง 10 ต้น แถม 5 ต้นครับ
- ว่านขันหมากบดแห้งและละเอียดแล้วพร้อมบรรจุแคปซูล ปกติ 7 กิโล ตากแห้งแล้วจะเหลือเพียงแค่ 1 กิโลกรัมเท่านั้น ( สามารถกรอกได้ประมาณ 2,000-3,000 แคปซูล )

ถ้าเป็นพระสงฆ์สั่งซื้อผมขอปวารนาตัวถวายให้ท่านฉันฟรีเลยนะครับ
หมายเหตุที่สำคัญที่สุด : ทุกประเภท ทุกชนิด จัดส่งด่วนอีเอ็มเอสฟรีทั่วประเทศครับ ( ไม่มีบวกค่าขนส่งเพิ่ม )

ผมกล้ารับประกันนะครับว่าผมใช้ลูกสุกล้วนๆไม่ผสมสเตียรอยด์ในการผลิตแคปซูล เพราะผมเชื่อว่า " การให้สิ่งที่ดีที่สุด คือการให้ที่มีค่ายิ่ง " ผมยึดข้อคิดที่ว่า เอาใจเขา มาใส่ใจเรา เราทำให้ดี ทำให้เต็มที่ ให้สมคุณค่า สมกับการฝากความหวังของคนป่วย คนที่ตั้งใจอยากทาน  เพราะฉนั้นทุกท่านหมดห่วงได้นะครับ ถ้าอยากสอบถามเพิ่มเติม""ติดต่อได้นะครับหมอพืชอานนท์ 089-6889946,090-9569093 ยินดีให้คำปรึกษาครับ ไลน์ 0896889946