ว่านขันหมากเศรษฐี

ว่านขันหมากหรือขันหมากเศรษฐี เป็นว่านที่ปู่ย่าตายายสมัยโบราณนำมาใช้รักษาโรคชนิดต่างๆเพราะในเมล็ดของว่านขันหมากมีเอนไซด์ที่ช่วยให้ระบบต่างๆของร่างกายมนุษย์ทำงานได้ตามปกติ อีกทั้งยังช่วยยับยั้งและป้องกันรักษาเซลล์เนื้อร้ายต่างๆ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ รักษาอาการภูมิแพ้ หอบหืด โรคกระเพาะ โรคลำไส้ ทางเดินอาหาร ปวดท้องบิด ตะคริว มือเท้าชา ปวดตามแข้งขา เส้นเอ็นตึง รักษาไข้และอาการไอได้ รักษามะเร็งระยะต่างๆ เนื้องอก ซิสส์ เบาหวาน ความดัน ยับยั้งความเสื่อมชราของร่างกาย เป็นยาอายุวัฒนะ ป้องกันความเสื่อมทางด้านเพศ เป็นสมุนไพรที่มีงานวิจัยรับรองอย่างมากมาย ส่วนต้นเชื่อกันว่านำมาปลูกประดับบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคล โชคลาภ ค้าขายร่ำรวย ป้องกันภูติผีได้ ถ้าใครนำมาปลูกแล้วขันหมากออกดอกเชื่อกันว่าเจ้าของบ้านจะมีแต่โชคดี เงินไหลนอง ทองไหลมา เพราะต้นนึงจะออกดอกออกผลใช้เวลาร่วม 3 ปีทีเดียว ถ้าทุกท่านต้องการข้อมูลมากกว่านี้สอบถามได้นะครับ

ว่านขันหมาก ว่านเศรษฐี สรรพคุณมากมายใช้ป้องกัน ดูแลรักษาโรค

“คนเป็นส่วนมากกลัวแก่ อยากมีรูปร่างผิวพรรณสดใสวัยละอ่อนตลอดกาล และอยากมีอายุยืนยาว ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บรบกวน “ว่านขันหมาก” จัดเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณดีทางด้านยาอายุวัฒนะมาแต่โบราณแล้ว โดยตำรายาแผนโบราณไทยระบุว่า ผลสุกของว่านขันหมาก ถ้ากินประจำทุกวัน วันละ 5 ผล ก่อนนอน กำกับด้วยคาถาพระเจ้า 5 พระองค์ คือ " นะ โม พุท ธา ยะ " 5 คาบก่อนทาน เป็นยาอายุวัฒนะชั้นเยี่ยม ทำให้คงความเป็นหนุ่มสาว ไม่รู้จักแก่ อายุยืน เนื้อหนังเต่งตึง ไม่เหี่ยวย่น ฟันทนไม่หักหลุด ผมไม่หงอก ทำให้เกิดเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น มีพละกำลังมาก เดินเหินคล่องแคล่ว ไม่รู้จักเมื่อยขบ ช่วยรักษาและบรรเทาอาการเจ็บปวดตามร่างกาย ตามข้อ เส้นเอ็น ได้ดี
ว่านขันหมาก อยู่ในสกุลเดียวกับว่านสาวน้อยปะแป้ง ลำต้นแทงจากเง่าใต้ดินสูงเต็มที่เท่าที่เคยเห็นประมาณ 2 เมตรในป่าลึกๆ มีสีเขียวเป็นข้อ ๆ อวบน้ำเล็กน้อย ใบขนาดฝ่ามือ สีเขียวสด ปลายใบแหลม ใบเดี่ยวออกสลับ ออกใบที่ปลายต้นแบบต้นหมาก ต้นหนึ่งมีใบไม่เกิน 10 ใบ ดอกสีขาว ออกเป็นช่อที่ซอกใบ และก้านช่อดอกยาว ดอกมีรูปร่างลักษณะคล้ายดอกหน้าวัว แต่สีขาวโอบตัวช่อเกสรไว้ ผลรูปกลมรีคล้ายผลพิกุล หรือคล้ายลูกสลอดน้ำหรือลูกมิราเคิล ติดเป็นพวง 1-25 ผล แล้วแต่ความสมบูรณ์ของต้นนั้นๆผลอ่อนสีเขียว เมื่อแก่หรือสุกเป็นสีเหลืองแกมส้ม หรือสีแดงสด โตขนาดปลายนิ้วก้อยมือผู้ใหญ่ ผลสุกรับประทานเป็นยาอายุวัฒนะ ชลอความแก่ เนื้อหนังเต่งตึง รักษาอาการภูมแพ้ หอบหืด อาการไอ ได้ชะงัด ช่วยดีท็อกซ์ลำไส้ ขับมูกเมือก ของเสียในลำไส้ ต้านอนุมูลอิสระ เซลล์เนื้องอก โรคเรื้อรังต่างๆ เบาหวาน รักษาความดัน อัมพาตได้ โรคกระเพาะ โรคทางเดินอาหาร ผมมีตัวอย่างหลายร้อยเคสที่กินยาว่านขันหมาก โดยเฉพาะแฟนของผมเอง เป็นโรคกระเพาะมากว่า 2 ปี รักษามาตลอด คลินิคแต่ละที่ในตัวจังหวัดไปมาหมด อาทิตย์ละ 2 ครั้งต้องเอาตังค์ไปให้หมอ หมดเงินร่วมแสน ของหมักของดองก็ต้องงด หน่อไม้ก็กินไม่ได้ ยิ่งขนมจีนหรือข้าวปุ้นซาวของชอบของเขายิ่งต้องอด ผมเลยพาแฟนไปหาอาจารย์ที่ผมเคยบวชปฏิบัติกับท่านเมื่อ 3 ปีก่อน ท่านบอกว่ายารักษาก็ว่านขันหมากนั่นไง กินติดต่อกันวันละ 3-5 ผล ไม่ถึงเดือน อาการโรคกระเพาะ อาการแน่นในท้อง ของแฟนผมหายไป อาหารที่เคยงดเดี๋ยวนี้กินได้หมดแล้ว ผ่านมาเกือบ 2 ปี อาการของโรคกระเพาะก็ยังไม่กลับมา แสดงว่าหายจริงๆ เด็กที่ไม่สบายก็ให้ทานประจำ ดีกว่ายาพาราเสียอีก ยิ่งคนที่ท้องอืด ถ่ายยาก ยิ่งเห็นผลชัดเจน ขับสารพิษในร่างกายได้ดี
         การรับประทานว่านขันหมากนั้น แต่โบราณนิยมกลืนกินทั้งเม็ด ห้ามเคี้ยวเพราะจะมีรสคัน ปากลิ้นจะชา แต่ถ้ากลืนลงท้องแล้วไม่เป็นไร แต่กระเพาะอาหารก็ย่อยได้เฉพาะเปลือกผลเท่านั้น ที่เป็นเม็ดในก็หลุดออกมากับอุจจาระ หมอพืชอานนท์แนะนำ ให้หั่นเป็นชิ้นเล็กๆหยิบหย่อนลงคอกลืนแล้วดึ่มน้ำตามมากๆ แต่ถ้านำมาตากแห้งเคี้ยวกินดูก็ไม่มีอาการคัน และมีรสมันหอมอร่อย แต่ถ้าทำผงอัดแคปซูลจะได้เนื้อยาทั้งหมดเลย ผล 7 ลูก เมื่อตากแห้งทำผงอัดแคปซูลจะได้ 1 แคปซูล ผลดิบ 7 กิโลกรัม เมื่อตากแห้งแล้วจะเหลือ 1 กิโลกรัม ชนิดแคปซูลรับประทานก่อนนอน วันละ 2-3 แคปซูล
    ผู้ที่ได้รับประทานว่านขันหมากส่วนมาก 95 % จะพึงพอใจ เพราะเพียง 1-2 อาทิตย์ก็จะพบว่าหน้าตาเปลี่ยนเป็นขาวผุดผ่องเหมือนหนุ่มสาว ร่างกายแข็งแรง โรคเรื้อรังที่เป็นอยู่ก็มีอาการดีขึ้นเรื่อย ๆ จึงมักมีผู้สั่งซื้อเป็นโหลๆอยู่หลายท่าน บางท่านก็อยากได้ชนิดเม็ดสด บางท่านก็ชนิดแคปซูล บางท่านก็สั่งแบบดองน้ำผึ้ง บางท่านสั่งต้นไปปลูก 
    เนื่องจากลูกว่านขันหมากเป็นของหาได้ยาก ถึงจะมีมากก็มีจำนวนจำกัด ดังนั้นผู้ที่มีโอกาสได้กินต้องถือว่ามีบุญจริง ๆ ผมทดลองนำต้นที่มีลูกเล็ก ๆ ติดอยู่มาปลูกตั้งแต่กลางปี  จนถึงบัดนี้ผ่านมา 2 ปีกว่าๆลูกยังเขียวสดอยู่เลย ส่วนที่ยังไม่มีลูกก็แทงดอกให้เห็นเป็นประจำแต่ต้องปลูกแบบอิงธรรมชาติให้ได้มากที่สุดนะครับ เพราะเมื่อพิจารณาดูพื้นที่ตามธรรมชาติที่ต้นว่านขึ้นแล้วสังเกตเห็นว่าว่านชนิดนี้ชอบขึ้นบนแอ่งหินปูน ตามรอบถ้ำ ตามภูเขาหิน ริมหน้าผา ผลของต้นมักจะเป็นอาหารของพวกกระรอก กระแต ไก่ป่า นก หนู ทำให้หาผลของต้นว่านชนิดนี้ได้ยากมาก ถ้าลูกสุกหล่นลงบนหินปูนที่พอมีดินหล่อเลี้ยงก็จะงอกต้นขึ้นตรงนั้น  และต้นที่ให้ผลแล้วก็จะเว้นระยะให้ผล ไม่ทราบว่าอีกกี่ปีจึงจะให้ผลอีก เพราะได้ไปสำรวจต้นที่ไปเก็บผลมาตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา พอปลายปีนี้ไปสำรวจอีก ปรากฏว่าไม่มีผลให้เห็นเลย คงพบแต่ต้นเป็นดงดานเต็มไปหมด นับเป็นพันธุ์ไม้ที่ติดผลยากจริง ๆ คาดว่ากระบวนการตั้งแต่เริ่มตั้งช่อดอกออกลูกและสุกแดงเต็มที่น่าจะใช้เวลาประมาณ 3 ปี
                      http://keaomanarnon.blogspot.com/2012/08/blog-post_7.html


      ข่าวด่วนนะครับต้อนรับปี 2560 นี้..ผมมีว่านขันหมากสกัด บรรจุเป็นแคปซูลให้กับผู้ที่ต้องการนำไปรับประทานกันแล้วครับ คิดว่าปีนี้น่าจะเพียงพอต่อความต้องการของพี่น้อง 1 ขวด บรรจุ 108แคปซูล เพียงแค่ 999 บาท แค่นั้นครับ ตลอดทั้งมีลูกสุกสดๆ ดองน้ำผึ้ง และท่านใดที่ต้องการต้นว่านไปปลูกเพื่อความเป็นสิริมงคล ผมมีหลายรุ่น หลายขนาด ให้กับทุกท่านนะครับ..สอบถามโดยตรงที่ หมอพืชอานนท์ 090-9569093 , 089-6889946 
                            ประวัติโรคภูมิแพ้ที่เกิดกับหมอพืชอานนท์
          ตามแนวทางการดูแลตัวเองของผมหมอพืชอานนท์ ซึ่งมีประสบการณ์การเป็นภูมิแพ้มาตั้งแต่กำเนิดนะครับ สมัยเด็กๆจะแพ้อากาศเย็นและร้อนอยู่ตลอดเวลา จะมีขี้มูกอยู่ในรูจมูกทำให้เกิดความรำคาญอยู่ตลอดเวลา ช่วงตื่นนอนก็จะมีเสลด เวลาเข้าห้องน้ำทรมานมากต้องบ้วนเสลดทิ้งตลอด พอตอนอายุ 20 ปีเข้ามาทำงานในเมือง เขตอ้อมน้อยโรงงานย้อมผ้าทำงานอยู่ 7 ปี ซึ่งแต่ละวันต้องคลุกคลีอยู่กับสารเคมีย้อมและฝุ่นละอองผ้าตลอดเวลา นับเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของการเป็นโรคภูมิแพ้ ช่วงนั้นรู้สึกทรมานและสงสารตัวเองมากๆ แต่ต้องทนทำงานเพราะตอนนั้นแนวความคิดของผมยังขาดวิสัยทัศน์อยู่มากและมองไม่เห็นวิธีทำงานที่สร้างรายได้ได้มากกว่านั้น และยังต้องเก็บตังค์ส่งให้แม่ทางบ้านเพราะครอบครัวในสมัยนั้นยากจนมาก...ต้องเก็บผัก เก็บหน่อไม้ ไปตระเวนแลกข้าวสารมาหุงกินกัน ทำงานผ่านไป 7 ปี เหนื่อยกับชีวิต(ไม่ใช่เป็นคนขี้เกียจนะครับ) ช่วงนั้นผมเริ่มปฏิบัติใหม่ๆเกิดศรัทธาเลยลางานไปบวชปฏิบัติอยู่ 2 ปี ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมได้รู้จักว่านขันหมากเศรษฐี รู้สรรพคุณว่าว่านชนิดนี้รักษาโรคภูมิแพ้ได้ จึงได้เริ่มทานว่านชนิดนี้ ผ่านไป 7 วัน รู้สึกว่าจมูกโล่งขึ้น น้ำมูกและเสลดลดลง ผ่านไป 20 วัน อาการคัดจมูกและน้ำมูกที่มีเริ่มลดหายไปเรื่อยๆ เสลดที่มีหายไป ทุกวันนี้ผมมีความสุขมากจากการที่เป็นภูมิแพ้ติดตัวมา 30 ปี บัดนี้หายขาดไปจากชีวิตของผมแล้ว ...ไม่ใช่ว่าที่ผมพูดนี้เพราะเชียร์ขายของนะครับ..แต่อยากบอกจากใจจริงว่า" ถ้าไม่มีว่านขันหมากเศรษฐี ผมก็ยังทรมานไม่หายอย่างแน่นอน ) ผมต้องขอขอบคุณว่านชนิดนี้อยู่ตลอดเวลา ทุกวันนี้หลังจากสุขภาพกายและใจดีขึ้น วิถีชีวิตก็ดีขึ้น ความสุขก็มีมากขึ้นครับ ทุกวันนี้ผมกับแฟนมีชุดขาวปฏิบัติธรรมติดรถอยู่ตลอดเวลา เดินทางไปทางไหน เจอะงานปฏิบัติธรรม หรือสมโภชพุทธาภิเษกก็แวะปฏิบัติธรรมและทำบุญทุกๆครั้งไป มันก็เป็นความสุขทางกายและทางใจดีครับ.....





- ถ้าเป็นพระสงฆ์สั่งซื้อผมขอปวารนาตัวถวายให้ท่านฉันฟรีเลยนะครับ
หมายเหตุที่สำคัญที่สุด : ทุกประเภท ทุกชนิด จัดส่งฟรี ทั่วประเทศครับ 

สอบถามโดยตรงครับ : หมอพืชอานนท์ 089-6889946,090-9569093
บัญชีธนาคารกรุงไทย ประเภทออมทรัพย์ สาขาโลตัสเดชอุดม ชื่อบัญชี นายอานนท์ แก้วมั่น เลขที่บัญชี 849-0067-147 ขอบคุณครับ

รายได้จากการจำหน่ายว่านขันหมากเศรษฐีนำมาสร้างประโยชน์อะไรบ้าง

 สวัสดีครับ..เพื่อนๆกัลยาณมิตรทุกๆท่าน มีหลายท่านถามกันเข้ามามากว่ารายได้จากการจำหน่ายว่านขันหมากเศรษฐีผมนำไปทำประโยชน์อะไรแก่ สังคมส่วนรวม  ต่อชาติ ต่อศาสนาบ้างหรือเปล่า เรื่องนี้ผมสามารถตอบได้เต็มปากเต็มคำเลยครับว่าผมทำเต็มที่โดยไม่เสียดายในทรัพย์สินเงินทอง เพราะคนเราเกิดมาแต่ตัวเปล่าๆ ไปก็ไปตัวเปล่าเอาอะไรไปไม่ได้ซักอย่างจริงไหมครับ..แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหน้าที่ทางด้านครอบครัวก็ไม่เคยให้บกพร่อง เป็นลูกที่ดีของคุณแม่ เป็นพ่อที่ดีให้เป็นแบบอย่างของลูกๆหลานๆ เพราะปกติผมก็มีศีล 5 ประจำใจตลอดเวลา ถ้าวันพระก็ศีล 8 สวดมนต์ไหว้พระ เจริญภาวนาแผ่เมตตาเป็นกิจวัตร ไม่ทานเนื้อวัว เนื้อควาย ไม่มีอบายมุขในการดำรงชีวิต เน้นสมถะ ชอบอยู่เงียบๆ ฟังธรรมมะทุกวันจนติดเป็นนิสัยไปเลยครับ อาจจะทำดีได้ไม่เต็มที่..แต่ในทุกๆวันก็จะพยายามสำรวจดูตัวเองว่าหลงสติทำบาปอะไรลงไปบ้าง แล้วทำดีได้มากน้อยแค่ไหนในวันนี้ สมกับที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนาหรือยัง ทาน ศีล ภาวนา หน้าที่ชาวพุทธพยายามไม่ให้ขาดตกบกพร่อง แรกๆการให้ทานก็ค่อยเป็นค่อยไป รายได้ 10-20% แบ่งทำบุญ ปล่อยชีวิตสัตว์ แต่ทุกวันนี้ตลอด 4 ปีเรื่อยมา แทบจะพูดได้ว่าหายใจเข้าหายใจออกเป็นบุญตลอดเวลา ทุกวันนี้รายได้กว่า 50-60 % สร้างบุญกุศลตลอด..มีเวลาและโอกาสต้องรีบทำทันทีเสมือนว่าวันนี้คือวันสุดท้ายของชีวิตจะมามัวประมาทอยู่ทำไม  ไม่ใช่ว่าผมโอ้อวดเพื่อขายตัวเองหรือเพื่อหวังขายของนะครับ แต่เมื่อมีคนถามและตั้งข้อสงสัยมาผมก็เลยต้องเฉลย ณ.ที่นี้เลยครับ อีกอย่างหนึ่งผมมีความเชื่อว่า " การให้สิ่งที่ดีและมีคุณค่ามากที่สุดย่อมเกิดประโยชน์สูงสุด" ในเมื่อสมุนไพรว่านขันหมากเศรษฐีเขามีดีอยู่ในตัวแล้ว ตัวคนทำสมุนไพรเองหรือผลิตออกมาจึงต้องมีศีลธรรม คุณธรรม จริยะธรรมควบคู่กันไปด้วย น่าจะเกิดประโยชน์ได้เต็มที่จริงไหมครับ และที่ผมภูมิใจมากที่สุดคือ การได้ตอบแทนพระคุณของคุณแม่ คุณยาย คุณน้าที่เลี้ยงผมมาและได้ช่วยเหลือแบ่งปันให้กับญาติๆทุกคนและได้ฝึกหลานๆหลายสิบชีวิตให้รู้จักศีลธรรมอันดีงาม มีความกตัญญูต่อพ่อแม่และผู้มีอุปการะคุณ และรู้จักการเป็นชาวพุทธที่ดีให้เป็นนิสัยติดตัวพวกเขาต่อไปในวันข้างหน้า
      งานบุญที่ทำต่อเนื่องมิได้ขาดเป็นกิจวัตรทุกๆเดือนก็มี อาธิเช่น
- ถวายข้าวสารเดือนละ 1 กระสอบและพืชผัก อาหาร เข้าโรงครัวกลางสำนักปฏิบัติธรรมวัดพิชโสภาราม อ.เขมราฐ จ.อุบลฯ ทุกๆเดือน
- ถวายปัจจัยเผยแผ่ธรรมมะผ่านสถานีวิทยุ ทุกๆเดือน
- ถวายค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ สวนธรรมวรมณ์ภรรธบุญญสิริ ทุกๆเดือน
- สร้างสวนธรรมเพื่อเผยแพร่หลักการปฏิบัติตนตามพระธรรมคำสอนของพระศาสดา
- ปล่อยชีวิตสัตว์ที่ถูกกักขังและจะถูกฆ่า ทุกๆอาทิตย์ ตลอด 2 ปีมานี้ ปล่อยเต่านับพันตัว ปล่อยปลาดุก ปลาช่อน ปลาหมอ ปลานิล ปลาตะเพียน ปลาไหล หลายพันตัว ปล่อยหอยนับหมื่นชีวิต ปล่อยนกหลายร้อยตัว ปล่อย กระรอก กระแต งู กบ เขียด ปูนา หลายร้อยชีวิต ตลอดทั้งไถ่ชีวิต โค กระบือ ร่วมตามที่ต่างๆหลายสิบครั้ง
 และได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพงานบุญหลายๆที่ ทั้งบุญมหาสังฆทานหลายวัด งานบวช งานศพ  สร้างหนังสือ ยกช่อฟ้า เทศาลา นับไม่ถ้วน และที่สำคัญในปีนี้ มีโอกาสถวายปัจจัยร่วมกองกฐินสามัคคีประมาณ 2,600 วัด ทั่วไทย มีโอกาสร่วมสร้างพระใหญ่หลายๆจังหวัดนับร้อยองค์ ถวายพระพุทธรูปขนาด 5 นิ้ว สมเด็จองค์พระปฐมบรมจักพรรดิ์อีกหลายร้อยวัดและจะสร้างถวายไปเรื่อยๆและผมขอปฏิญาณตนถ้ายังมีลมหายใจอยู่จะไม่ยอมหยุดสร้างบารมี จะไม่หายใจทิ้งไปวันๆ เผื่อว่าผลบางประการแห่งการสร้างกรรมดีของผมและครอบครัว จะช่วยบรรเทาให้ลูกค้าของผมทุกๆท่านได้หายวันหายคืนไวๆ นี่คือความรู้สึกจากใจลึกๆของผมครับ























ภูมิแพ้ป้องกัน ดูแลรักษาได้ไม่ยาก ด้วยว่านขันหมากเศรษฐี ปกป้อง บรรเทา แก้ได้ 100%

                                                    ภูมิแพ้บรรเทาและรักษาให้หายได้


                สาเหตุของโรคภูมิแพ้
เป็นเพราะว่าระบบภูมิคุ้มกันมีปฎิกิริยาที่ไวเกินไปในการตอบสนองสิ่งแปลกปลอมแบบผิดปกติ ทั้งๆที่สิ่งแปลกปลอมนั้นไม่มีอันตรายกับร่างกาย แต่เป็นความเข้าใจผิดของร่างกายที่คิดว่าสิ่งแปลกปลอมบางอย่างเป็นอันตราย จึงมีปฎิกิริยาตอบสนอง โดยการผลิตสารภูมิต้านทานขึ้นเพื่อกำจัดและทำลายสิ่งแปลกปลอมนั้น และแทนที่สารภูมิต้านทานที่ร่างกายผลิตขึ้นจะเป็นเครื่องปกป้องร่างกาย กลับกลายเป็นว่ามันเป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายเจ็บปวดเสียเอง จึงทำให้เกิดอาการแพ้ เช่น ไข้ละอองฟาง
             อาการของโรคภูมิแพ้
ปฎิกิริยาภูมิแพ้จากสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นกับแต่ละคนนั้นจะแสดงอาการต่างกันไป แม้แต่สารชนิดเดียวกันก็ตาม เช่น การเกิดอาการแบบเฉียบพลัน คือ แพ้ละอองเกสรดอกไม้ ทำให้หายใจไม่สะดวก น้ำมูกไหล หรือคันตา ตาแดง หากแพ้อาหารก็อาจจะอาเจียน มีผื่นคันขึ้นตามผิวหนัง มีอาการหืด ผิวหนังอักเสบ หรือเกิดอาการช๊อค ส่วนอาการที่ไม่เฉียบพลัน คือ แพ้เครื่องประดับที่เป็นนิเกิล หรือกาวลาเท็กซ์ เมื่อเกิดอาการแพ้ผิวหนังจะอักเสบ
             การวินิจฉัยโรคภูมิแพ้
เมื่อไม่รู้สาเหตุของการแพ้ควรไปปรึกษาแพทย์ แพทย์จะสอบถามและทดสอบด้วยปลาสเตอร์บนหลัง และตรวจเลือด หรือใช้วิธีเทสต์ด้วยการสะกิดผิวหนังให้เป็นแผลเล็กๆ แล้วหยดน้ำยาที่มีสารต้องสงสัยว่าจะทำให้เกิดปฎิกิริยาภูมิแพ้ลงไป เมื่อหาสาเหตุของภูมิแพ้ได้ เราก็ควรจะหลีกเลี่ยงเท่าที่จะทำได้ หากเป็นโรคภูมิแพ้ที่เกิดจากการสัมผัสก็ไม่น่ามีปัญหา
           วิธีป้องกันโรคภูมิแพ้
. ที่สำคัญก็คือต้องรักษาสุขภาพให้แข็งแรง กินอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับให้เพียงพอ ไม่เครียด หลีกเลี่ยงสารพิษและพยายามมองโลกในแง่ดีก็จะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันโรคแข็งแรงขึ้น เพราะผู้ที่ใช้ร่างกายและจิตใจจนอ่อนล้า จะทำให้ประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกันน้อยลง ทำให้ตอบสนองต่อการรุกรานของสิ่งแปลกปลอมได้ไม่ดีเท่าที่ควร ส่งผลให้เจ็บป่วยได้ง่าย
     . หากแพ้ฝุ่นไรในบ้าน ก็ควรเปลี่ยนมาใช้ฟูกที่มีลักษณะพิเศษที่ป้องกันฝุ่นไรได้ดี และควรซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ด้วยอุณหภูมิ 60 องศา และนำผ้าที่ซักรีดเรียบร้อยแล้วให้เก็บไว้ในตู้เสื้อผ้า รักษาความสะอาดของบ้านและเฟอร์นิเจอร์
     . ปิดหน้าต่างก่อนค่ำ เนื่องจากละอองเกสรของดอกไม้จะฟุ้งกระจายเมื่ออากาศเย็นลง
     . ทาวาสลีนไว้ในรูจมูก เพื่อดักจับละอองเกสรดอกไม้ไม่ให้เข้าไปในจมูกและเยื่อบุช่องคอ
     . สระผมทุกเย็น เพราะว่าฝุ่นละอองเกสรดอกไม้ที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้นั้นอาจเกาะติดกับเส้นผม (แต่ควรเป่าผมให้แห้งก่อนนอนทุกครั้ง)
     . สวมแว่นกันแดดที่ปกปิดดวงตาได้มิดชิด เพื่อไม่ให้ฝุ่นและละอองเกสรดอกไม้เข้าตา

         http://keaomanarnon.blogspot.com/2012/08/blog-post_7.html
      ประวัติโรคภูมิแพ้ที่เกิดกับหมอพืชอานนท์
       ตามแนวทางการดูแลตัวเองของผมหมอพืชอานนท์ ซึ่งมีประสบการณ์การเป็นภูมิแพ้มาตั้งแต่กำเนิดนะครับ สมัยเด็กๆจะแพ้อากาศเย็นและร้อนอยู่ตลอดเวลา จะมีขี้มูกอยู่ในรูจมูกทำให้เกิดความรำคาญอยู่ตลอดเวลา ช่วงตื่นนอนก็จะมีเสลด เวลาเข้าห้องน้ำทรมานมากต้องบ้วนเสลดทิ้งตลอด พอตอนอายุ 20 ปีเข้ามาทำงานในเมือง เขตอ้อมน้อยโรงงานย้อมผ้าทำงานอยู่ 7 ปี ซึ่งแต่ละวันต้องคลุกคลีอยู่กับสารเคมีย้อมและฝุ่นละอองผ้าตลอดเวลา นับเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของการเป็นโรคภูมิแพ้ ช่วงนั้นรู้สึกทรมานและสงสารตัวเองมากๆ แต่ต้องทนทำงานเพราะตอนนั้นแนวความคิดของผมยังขาดวิสัยทัศน์อยู่มากและมองไม่เห็นวิธีทำงานที่สร้างรายได้ได้มากกว่านั้น และยังต้องเก็บตังค์ส่งให้แม่ทางบ้านเพราะครอบครัวในสมัยนั้นยากจนมาก...ต้องเก็บผัก เก็บหน่อไม้ ไปตระเวนแลกข้าวสารมาหุงกินกัน ทำงานผ่านไป 7 ปี เหนื่อยกับชีวิต(ไม่ใช่เป็นคนขี้เกียจนะครับ) ช่วงนั้นผมเริ่มปฏิบัติใหม่ๆเกิดศรัทธาเลยลางานไปบวชปฏิบัติอยู่ 2 ปี ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมได้รู้จักว่านขันหมากเศรษฐี รู้สรรพคุณว่าว่านชนิดนี้รักษาโรคภูมิแพ้ได้ จึงได้เริ่มทานว่านชนิดนี้ ผ่านไป 7 วัน รู้สึกว่าจมูกโล่งขึ้น น้ำมูกและเสลดลดลง ผ่านไป 20 วัน อาการคัดจมูกและน้ำมูกที่มีเริ่มลดหายไปเรื่อยๆ เสลดที่มีหายไป ทุกวันนี้ผมมีความสุขมากจากการที่เป็นภูมิแพ้ติดตัวมา 27 ปี บัดนี้หายขาดไปจากชีวิตของผมแล้ว ...ไม่ใช่ว่าที่ผมพูดนี้เพราะเชียร์ขายของนะครับ..แต่อยากบอกจากใจจริงว่า" ถ้าไม่มีว่านขันหมากเศรษฐี ผมก็ยังทรมานไม่หายอย่างแน่นอน ) ผมต้องขอขอบคุณว่านชนิดนี้อยู่ตลอดเวลา ทุกวันนี้หลังจากสุขภาพกายและใจดีขึ้น วิถีชีวิตก็ดีขึ้น ความสุขก็มีมากขึ้นครับ ทุกวันนี้ผมกับแฟนมีชุดขาวปฏิบัติธรรมติดรถอยู่ตลอดเวลา เดินทางไปทางไหน เจอะงานปฏิบัติธรรม หรือสมโภชพุทธาภิเษกก็แวะปฏิบัติธรรมและทำบุญทุกๆครั้งไป มันก็เป็นความสุขทางกายและทางใจดีมากเหลือเกินครับ.....
http://keaomanarnon.blogspot.com/2012/08/blog-post_7.html


      สำหรับทุกท่านที่ต้องการข้อมูล..ก็สอบถามได้ตลอดเวลานะครับ..หรือต้องการทดลองและสั่งซื้อแคปซูลว่านขันหมากก็ดี ลูกสุกดองน้ำผึ้งก็ดี หรือท่านที่อยากได้ลูกที่ตากแห้งแล้วไปทำแคปซูลทานเองก็ดี ผมเองพอมีให้บริการกับทุกๆท่านนะครับ..ที่นี่เราดูแลกันแบบพี่แบบน้อง แบบลูกหลาน อยากได้แบบไหนบอกได้ครับ อยากให้แถมอะไรก็แนะนำมาละกันนะครับ..ถือว่าร่วมแบ่งปัน จรรโลงสังคมให้ร่มเย็นเป็นสุขร่วมกันนะครับ..ว่านขันหมากเศรษฐีที่หมอพืชอานนท์มีให้บริการแก่ทุกท่านครับ..ต้อนรับปี 2560 นี้

1. แคปซูลว่านขันหมากปกติ 1,200 บาท ลดเหลือ 999 บาท สั่ง 3 กระปุก ลดเหลือ 2,500 บาท  ถ้าสั่ง 5 กระปุก แถมฟรี 2 กระปุกใหญ่ ในราคา 5,000 บาท ครับ ( ของแถมมูลค่า 1,998 บาท )...สั่ง 10 กระปุกแถมฟรี 5 กระปุกใหญ่  ในราคา 10,000 บาท ( ของแถมมูลค่า 5,000 บาท )
2. ดองน้ำผึ้งจากบรรจุ 109 เม็ดเพิ่มขึ้นเป็น 129-149 เม็ดในราคาถูกกว่าเดิมกระปุกละ 1,250 บาท สั่ง 3 กระปุกลดเหลือ 3,000 บาท สั่ง 5 กระปุก แถม 1 กระปุก สั่ง 10 กระปุก แถม 3 กระปุก
3. ต้นว่านขันหมากปกติต้นละ 100 - สั่ง 10 ต้นแถมอีก 3 ต้น ครับ..ต้นมีลูกต้นละ 200 บาท สั่ง 10 ต้นแถม 3 ต้นเช่นกันครับ

- ว่านขันหมากบดแห้งและละเอียดแล้วพร้อมบรรจุแคปซูล ปกติ 7 กิโล ตากแห้งแล้วจะเหลือเพียงแค่ 1 กิโลกรัมเท่านั้น ( สามารถกรอกได้ประมาณ 2,000-3,000 แคปซูล )

- ถ้าเป็นพระสงฆ์สั่งซื้อผมขอปวารนาตัวถวายให้ท่านฉันฟรีเลยนะครับ
หมายเหตุที่สำคัญที่สุด : ทุกประเภท ทุกชนิด จัดส่งด่วนอีเอ็มเอสฟรีทั่วประเทศครับ ( ไม่มีบวกค่าขนส่งเพิ่ม )
สอบถามโดยตรงครับ : หมอพืชอานนท์ 089-6889946,090-9569093
    ขอบคุณครับ

                                          ลูกว่านขันหมากสุกช่วง ตุลาคม-มกราคม

http://keaomanarnon.blogspot.com/2012/08/blog-post_7.html



สรุปยอดทำบุญถวายว่านขันหมากเศรษฐีฟรีแด่พระสงฆ์ สามเณร ปี 2558 ( 2015)

สรุปยอดทำบุญถวายสมุนไพรว่านขันหมากเศรษฐีแด่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ พระสงฆ์ สามเณร ตลอดปี 2558 ที่ผ่านมาของหมอพืชอานนท์ เฉพาะว่านขันหมากเศรษฐีไม่รวมค่าขนส่งอื่นๆ ผมพยายามเก็บเล็กผสมน้อยโดยการนำวิชาความรู้ที่ตนเองพอมีช่วยเหลือสังคม ประเทศชาติ พระพุทธศาสนา ให้ได้มากที่สุด ถ้าถามว่าทำไปทำไม..? ง่ายๆครับ "การให้มันไม่เป็นทุกข์ครับ มันไม่เหมือนจิตใจที่คิดแต่จะเอา จิตใจมันจะร้อนรนกระวนกระวายตลอดเวลา " การให้มันจะเกิดปีติสุข เมื่อใจเรายิ้ม หน้าตา ท่าทาง ก็จะยิ้มและมีความสุขตาม ตลอดปี 2558 ที่ผ่านมานี้รวมยอดถวายสมุนไพรว่านขันหมากเศรษฐีคิดเป็นมูลค่าเงินทั้งสิ้น 293,995 บาท ขออานิสงส์ผลบุญทั้งหมดนี้ที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาจงเป็นพลวะปัจจัยให้ข้าพเจ้าและครอบครัว ตลอดถึงบริวาร ญาติมิตร เพื่อนๆกัลยาณมิตร ตลอดถึงลูกค้าทุกๆท่าน ถึงฝั่งมรรคผลพระนิพพานในอนาคตกาลเบื้องหน้าอันไกล้นี้ หากบารมียังไม่เต็มแล้วไซร้ คำว่าไม่มี ไม่ดี ไม่เลิศ ไม่ประเสริฐ ไม่ปรากฎ โรคาพยาธิ ศรัตรูหมู่พาลทั้งหลาย จงอย่าได้พานพบนับตั้งแต่บัดนี้ เวลานี้ เป็นต้นไปตราบเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ ฯ







เข้าป่าครั้งล่าสุดกับหมอพืชอานนท์...ค้นหาว่านขันหมากเศรษฐีสมุนไพรหายากในป่าลึก

       สวัสดีครับ...วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆไปดูบรรยากาศบนป่าบนเขาเพื่อค้นหาว่านขันหมากเศรษฐีกัน...ครั้งนี้ขึ้นเขา 2 ลูกครับ เพื่อค้นหาแหล่งใหม่เนื่องจากว่าช่วงนี้มีเคสคนเป็นมะเร็งสอบถามมาเยอะเหลือเกิน น่าเห็นใจจริงๆครับ...พอผมรับโทรศัพท์เกี่ยวกับเรื่องนี้ทีไรรู้สึกหดหู่ใจทุกที...ทุกวันนี้อะไรๆก็เปลี่ยนไป ทั้งดิน น้ำ อากาศ อาหาร ปนเปื้อนสารพิษสารเคมีไปหมด โดยเฉพาะอาหารทุกวันนี้การเกษตรพึ่งกันแต่สารพิษสารเคมี ก่อนปลูกก็ฉีดพ่นยาฆ่าหญ้า ลงต้นลงเม็ดก็ใช้สารไล่แมลงกับปุ๋ยเคมีอีก พอวัชพืชขึ้นก็อัดยาฆ่าหญ้าอีกรอบ กว่าจะเก็บเกี่ยวผลผลิตกันไม่รู้ว่ามีอะไรตกค้างในผลผลิตเหล่านั้นบ้าง พอเรานำมาบริโภค..แค่นั้นละครับคิดเอาว่ามันไปสะสมอยู่ที่ไหน...ผมขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้กับทุกท่านที่มีปัญหาสุขภาพนะครับ ยังไงผมก็จะขอยืนหยัดใช้วิชาความรู้ช่วยให้เต็มที่ เพื่อตอบแทนน้ำใจแทนคำขอบคุณที่ทุกท่านไว้ใจและมั่นใจในตัวหมอพืชอานนท์คนนี้ครับ
                                                                                   

                                 http://keaomanarnon.blogspot.com/2012/08/blog-post_7.html

สภาพป่าบนภูเขาลูกแรกที่ปีนขึ้นไปครับ...น่าใจหายจริงๆป่าที่เคยอุดมสมบูรณ์ถูกไฟไหม้จนเบาบางหมดเลยครับ กว่าเขาจะแตกกิ่งก้านสาขาขึ้นมาใหม่ก็คงอีกนาน ยิ่งว่านขันหมากเศรษฐียิ่งแล้วใหญ่ครับเจอไฟป่าแค่ไม่เกิน 2 ครั้งสูญพันธุ์แน่ๆ...เขาลูกนี้เดินหาประมาณครึ่งวันครับ เจอต้นอ่อนว่านขันหมากที่แตกใหม่จากการถูกไฟไหม้แค่ต้นเดียวเอง
เขาลูกที่ 2 ครับ ไฟไหม้เกือบหมดเช่นกันกับเขาลูกแรก...ทีแรกที่ขึ้นไปก็ใจหวิวๆเช่นกันสงสัยวันนี้คงกินแห้วชัวร์ เดินหาประมาณ 3 ชม.เห็นจะได้...หมดแรงกัน เลยนั่งพักเหนื่อยบนโขดหิน พอค่อยยังชั่วลุกขึ้นจะเดินลงจากเขาก็เหลือบไปเห็นเห็ดระโงกบานดอกนึง นึกยิ้มในใจคงไม่เสียเที่ยวแล้วแหละวันนี้ สุดท้ายสวรรค์ก็เข้าข้าง คงเป็นที่ความตั้งใจอันแน่วแน่ที่อยากช่วยเหลือคนป่วยคนไข้ให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บที่เป็นอยู่กระมังครับ...เจอป่าที่ไฟป่าไหม้ไม่หมดอยู่ใต้หน้าผา จึงรีบพากันลงไปดูพบว่านขันหมากเศรษฐีหลายสิบต้น...เท่านี้ละครับพวกเรายิ้มกันอย่างมีความหวัง เดินหากันต่อประมาณ 3 ชม.กว่าๆ ได้ต้นขันหมากกันคนละ 50-60 ต้นทีเดียว
ยิ้มออกแล้วครับ...พอเจอว่านขันหมากหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
เข้าป่าครั้งนี้หมอพืชอานนท์สละรองเท้าอีกแล้วครับ...เดินลงเขาหลายกิโลดีนะครับหนามโดนไฟป่าไหม้หมดไม่งั้นแย่แน่ๆคงได้เห็นเลือดสดๆกันแล้ว..ส่วนเสื้อโดนหนามเกี่ยวขาดไป 3 รูเบ้อเร่อเลยครับ แต่ยังไงก็ยังสุขใจที่ค้นหาจนสำเร็จ..ทั้งๆที่แฟนกับคุณแม่ที่ไปด้วยชวนกลับหลายหนก็ได้แต่ปลอบใจกันครับ " เดี๋ยวก็เจอ หาต่อไป...ทุกความพยายามอาจจะไม่ก่อให้เกิดความสำเร็จ...แต่ทุกๆความสำเร็จล้วนเกิดจากความพยายามทั้งสิ้น" และสิ่งที่เห็นมันจะพิสูจน์เอง...สุดท้ายก็ยิ้มกันทุกคนครับ